โรคของกระต่าย
กระต่ายป่วยหรือไม่กระต่ายจะซึม
1. ไม่เดินมาหาเหมือนทุกทีนอนอยู่มุมกรงไม่กินอาหาร
2. ตรวจดูว่าอึเหลวหรือไม่หรือว่าไม่มีอึเลยหรือเปล่าหากไม่มีอึเลยในกรง หรืออึน้อยผิดปกติ มีโอกาสสูงที่กระต่ายอาจจะเกิดการอุดตันในทางเดินอาหาร ซึ่งอึของกระต่ายบอกอะไรได้หลายๆอย่างเลยทีเดียว หากอึของกระต่ายมีขนาดเล็กลง หรือว่า มีสิ่งแปลกปลอมผสมอยู่เช่น มีขนติดกับก้อนอึมากๆ เราควรจะต้องระวังให้ดีเลยค่ะ อาจจะพาไปให้หมอเอ็กซเรย์ดูก็ได้ว่ามีการอุดตันหรือไม่ตัวร้อน
3. เราจะวัดอุณหูมิร่างกายของกระต่ายตรงหูหากว่า หูของกระต่ายร้อนผิดกว่าทุกที แปลว่า ไม่สบาย (ลองเทียบกับหูกระต่ายตัวอื่นๆที่เลี้ยงก็ได้) ส่วนหากหูเย็นผิดปกติ แปลว่า อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงมากๆ ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณบอกถึงอาการเจ็บป่วยได้หายใจลำบาก
4. หายใจมีเสียงดังฟึ่ดๆ ผิดปกติ แปลว่า อาจจะเกิดอาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจค่ะ หรือไม่อาจจะเกิดจากการแพ้อะไรบางอย่าง เช่น ขี้เลื่อยปูพื้นกรงที่ใช้อยู่น้ำตาไหล
อาจจะเกิดจากตาอักเสบ หรือมีการติดเชื้อที่ตาเป็นต้นคอเอียง เป็นไปได้ค่ะ ว่าอาจจะตกจากที่สูง หรือไม่ก็เกิดการอักเสบในช่องหู หรือไม่ก็ติดเชื้อจากอาการหวัด แล้วลามเข้าสู่หูชั้นใน อันนี้อันตรายมาก
5. ขาแป หรือแบะออก บางครั้งอาการนี้ไม่ได้เป็นมาตั้งแต่เกิดนะคะ แต่เกิดจากการเลี้ยงกระต่ายบนพื้นผิวที่ลื่นมากตลอดเวลา หากกระต่ายเริ่มมีอาการแบบนี้ ควรจะเปลี่ยนให้ไปอยู่ตรงพื้นที่ไม่ใช่ผิวเรียบ
6. มีน้ำไหลออกมาเลอะตรงคาง หรือว่า ทำท่าอยากอาหารแต่กินอาหารไม่ได้เป็นไปได้ว่ากระต่ายมีปัญหาที่ฟันเช่นฟันยาวฟันเอียงทำให้ควบคุมน้ำลายไม่ได้และกินอาหารไม่ได้ หรือบางรายอาจจะติดเชิ้อลงไปที่กรามอีกด้วยหากกระต่ายฟันผิดปกติควรจะพาไปหาหมอ เพราะว่า ไม่อย่างนั้นกระต่ายจะกินไม่ได้และตายในที่สุด (อันที่จริงเราควรจะหมั่นตรวจฟันอยู่เรื่อยๆเพราะว่า หากเราพบว่ากระต่ายฟันยาวหรือเอียงผิดปกติแต่เนิ่นๆ แล้วกระต่ายได้รับการตัดฟัน และดูแลอย่างดี ฟันก็อาจจะเข้าสู่รูปเดิมได้ แต่หากไม่ได้รับการรักษาเร็วพอฟันของกระต่ายจะยิ่งเกยกัน และเบี้ยวเสียรูปมากยิ่งขึ้น ทำให้ยิ่งรักษาได้ยากค่ะนอกจากนี้อาการน้ำลายไหลออกมา อาจจะบ่งบอกถึงการกินพืช หรือสารเคมีที่มีพิษเข้าไปอีกด้วย
7. ฉี่เป็นเลือด กระต่ายที่ฉี่เป็นเลือดนั้นมีน้อยมากๆส่วนใหญ่พอเอาเข้าจริงๆกลายเป็นสีในพืชที่กระต่ายกินเข้าไปไม่ได้เกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยเลย แม้แต่นิดเดียวปกติแล้วฉี่ของกระต่ายจะมีสีเหลืองอ่อนๆการที่ฉี่เป็นสีแดงนั้น จะเกิดจากฉี่มีสีค่อยๆเข้มขึ้นค่ะ จาก สีเหลืองอ่อน ไปเป็นเหลืองเข้มแล้วเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นสีส้ม สีแดง ส่วนใหญ่เกิดจากการกินผักที่มีเบต้าแคโรทีนมากๆ อย่างเช่น พวกแครอท เป็นต้น ในกรณีที่กินยาปฏิชิวนะก็มีผลค่ะ หรือบางครั้ง การกินน้ำน้อยก็มีส่วน เพราะว่าฉี่เข้มข้นขึ้น ทำให้มีสีเข้มขึ้นตามปกติแล้วภายในไม่เกิน 3 วันกระต่ายจะฉี่เป็นสีเดิม
8. หวัด กระต่ายจะมีอาการน้ำมูกไหลและจามแต่บางทีคนมักจะสับสนกับอาการที่อาจจะเกิดจากฝุ่นหรือน้ำเข้าจมูกดังนั้นเมื่อกระต่ายมีอาการจามเหมือนคนหรือมีน้ำมูกไหล วิธีตรวจง่ายๆ ว่าเป็นหวัดหรือไม่โดยให้ลองตรวจที่เท้าหน้าของกระต่าย ถ้าหากพบว่า ขนติดกัน หรือบริเวณนั้นเปียก แล้วล่ะก็เดาได้เลยว่าเป็นหวัด เพราะว่ากระต่ายจะใช้เท้าหน้าในการถูจมูกน้ำมูกตอนแรกน้ำมูกจะใสก่อนต่อมาจะขุ่นและหากไม่ได้รับการรักษา อาการจะลุกลามไปกลายเป็น ปอดอักเสบ และเสียชีวิตในที่สุด
1. ไม่เดินมาหาเหมือนทุกทีนอนอยู่มุมกรงไม่กินอาหาร
2. ตรวจดูว่าอึเหลวหรือไม่หรือว่าไม่มีอึเลยหรือเปล่าหากไม่มีอึเลยในกรง หรืออึน้อยผิดปกติ มีโอกาสสูงที่กระต่ายอาจจะเกิดการอุดตันในทางเดินอาหาร ซึ่งอึของกระต่ายบอกอะไรได้หลายๆอย่างเลยทีเดียว หากอึของกระต่ายมีขนาดเล็กลง หรือว่า มีสิ่งแปลกปลอมผสมอยู่เช่น มีขนติดกับก้อนอึมากๆ เราควรจะต้องระวังให้ดีเลยค่ะ อาจจะพาไปให้หมอเอ็กซเรย์ดูก็ได้ว่ามีการอุดตันหรือไม่ตัวร้อน
3. เราจะวัดอุณหูมิร่างกายของกระต่ายตรงหูหากว่า หูของกระต่ายร้อนผิดกว่าทุกที แปลว่า ไม่สบาย (ลองเทียบกับหูกระต่ายตัวอื่นๆที่เลี้ยงก็ได้) ส่วนหากหูเย็นผิดปกติ แปลว่า อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงมากๆ ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณบอกถึงอาการเจ็บป่วยได้หายใจลำบาก
4. หายใจมีเสียงดังฟึ่ดๆ ผิดปกติ แปลว่า อาจจะเกิดอาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจค่ะ หรือไม่อาจจะเกิดจากการแพ้อะไรบางอย่าง เช่น ขี้เลื่อยปูพื้นกรงที่ใช้อยู่น้ำตาไหล
อาจจะเกิดจากตาอักเสบ หรือมีการติดเชื้อที่ตาเป็นต้นคอเอียง เป็นไปได้ค่ะ ว่าอาจจะตกจากที่สูง หรือไม่ก็เกิดการอักเสบในช่องหู หรือไม่ก็ติดเชื้อจากอาการหวัด แล้วลามเข้าสู่หูชั้นใน อันนี้อันตรายมาก
5. ขาแป หรือแบะออก บางครั้งอาการนี้ไม่ได้เป็นมาตั้งแต่เกิดนะคะ แต่เกิดจากการเลี้ยงกระต่ายบนพื้นผิวที่ลื่นมากตลอดเวลา หากกระต่ายเริ่มมีอาการแบบนี้ ควรจะเปลี่ยนให้ไปอยู่ตรงพื้นที่ไม่ใช่ผิวเรียบ
6. มีน้ำไหลออกมาเลอะตรงคาง หรือว่า ทำท่าอยากอาหารแต่กินอาหารไม่ได้เป็นไปได้ว่ากระต่ายมีปัญหาที่ฟันเช่นฟันยาวฟันเอียงทำให้ควบคุมน้ำลายไม่ได้และกินอาหารไม่ได้ หรือบางรายอาจจะติดเชิ้อลงไปที่กรามอีกด้วยหากกระต่ายฟันผิดปกติควรจะพาไปหาหมอ เพราะว่า ไม่อย่างนั้นกระต่ายจะกินไม่ได้และตายในที่สุด (อันที่จริงเราควรจะหมั่นตรวจฟันอยู่เรื่อยๆเพราะว่า หากเราพบว่ากระต่ายฟันยาวหรือเอียงผิดปกติแต่เนิ่นๆ แล้วกระต่ายได้รับการตัดฟัน และดูแลอย่างดี ฟันก็อาจจะเข้าสู่รูปเดิมได้ แต่หากไม่ได้รับการรักษาเร็วพอฟันของกระต่ายจะยิ่งเกยกัน และเบี้ยวเสียรูปมากยิ่งขึ้น ทำให้ยิ่งรักษาได้ยากค่ะนอกจากนี้อาการน้ำลายไหลออกมา อาจจะบ่งบอกถึงการกินพืช หรือสารเคมีที่มีพิษเข้าไปอีกด้วย
7. ฉี่เป็นเลือด กระต่ายที่ฉี่เป็นเลือดนั้นมีน้อยมากๆส่วนใหญ่พอเอาเข้าจริงๆกลายเป็นสีในพืชที่กระต่ายกินเข้าไปไม่ได้เกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยเลย แม้แต่นิดเดียวปกติแล้วฉี่ของกระต่ายจะมีสีเหลืองอ่อนๆการที่ฉี่เป็นสีแดงนั้น จะเกิดจากฉี่มีสีค่อยๆเข้มขึ้นค่ะ จาก สีเหลืองอ่อน ไปเป็นเหลืองเข้มแล้วเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นสีส้ม สีแดง ส่วนใหญ่เกิดจากการกินผักที่มีเบต้าแคโรทีนมากๆ อย่างเช่น พวกแครอท เป็นต้น ในกรณีที่กินยาปฏิชิวนะก็มีผลค่ะ หรือบางครั้ง การกินน้ำน้อยก็มีส่วน เพราะว่าฉี่เข้มข้นขึ้น ทำให้มีสีเข้มขึ้นตามปกติแล้วภายในไม่เกิน 3 วันกระต่ายจะฉี่เป็นสีเดิม
8. หวัด กระต่ายจะมีอาการน้ำมูกไหลและจามแต่บางทีคนมักจะสับสนกับอาการที่อาจจะเกิดจากฝุ่นหรือน้ำเข้าจมูกดังนั้นเมื่อกระต่ายมีอาการจามเหมือนคนหรือมีน้ำมูกไหล วิธีตรวจง่ายๆ ว่าเป็นหวัดหรือไม่โดยให้ลองตรวจที่เท้าหน้าของกระต่าย ถ้าหากพบว่า ขนติดกัน หรือบริเวณนั้นเปียก แล้วล่ะก็เดาได้เลยว่าเป็นหวัด เพราะว่ากระต่ายจะใช้เท้าหน้าในการถูจมูกน้ำมูกตอนแรกน้ำมูกจะใสก่อนต่อมาจะขุ่นและหากไม่ได้รับการรักษา อาการจะลุกลามไปกลายเป็น ปอดอักเสบ และเสียชีวิตในที่สุด
จะเริ่มจากการติดเชื้อรานี้ ที่ส่วนหัว และ แพร่กระจายไปยังขา และเท้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณนิ้วเท้า หลังจากนั้น กระต่ายจะเริ่มมีแผลเกิดขึ้นตรงจุดที่ติดเชื้อรา และ โดยการติดเชื้อราจะมีขอบเขต เป็นวง และผิวหนังจะมีการระคายเคือง อาจจะมีอาการคัน และ เกิดสะเก็ดเป็นแผ่นแข็ง และขนร่วง เนื้อเยื่อทีอยู่ใต้สะเก็ดมักจะ มีอาการอักเสบ และ มีการแตกปริของผิวหนัง Ear Mite หรือ เรียกว่า ปรสิตที่อยู่ตรงรูหูลองกลับไปส่องดูในรูหูกระต่ายดูนะคะ ว่ามีก้อนคล้ายๆกับขี้ผึ้งสีน้ำตาลเข้มๆ เกาะอยู่ที่ในใบหูของกระต่ายหรือเปล่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น